วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หลับฝันดีกับอโรมาเธอราพี

        คุณเคยประสบปัญหานอนไม่หลับบ้างไหมคะ?

        ผู้เขียนมั่นใจว่า มีคนไม่น้อยที่เคยนอนไม่หลับมาแล้ว และมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่การนอนไม่หลับกลายมาเป็นปัญหาสุขภาพ


ภาพจาก http://women.thaiza.com/


        การนอนไม่หลับ ยังนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงที่อาจถึงตายได้

        เหมือนดาราฮอลลีวู้ดที่กำลังมีอนาคตรุ่งเรือง แต่มาจบชีวิตเสียก่อนด้วยการใช้ยานอนหลับเกินขนาด

        แฟนชาวไทยคงจะยังจำ ฮีธ เลดเจอร์ ดาราดังจากหนังเรื่อง Brokeback Mountain และอีกบทบาทหนึ่งที่มีชื่อเสียงในบท โจ๊กเกอร์ จากเรื่องแบทแมน



ฮีธ เลดเจอร์ ภาพจาก http://club.sanook.com/


เขาเสียชีวิตในอพาร์ทเมนต์ส่วนตัวตามลำพัง สันนิษฐานว่า เกิดจากการใช้ยานอนหลับเกินขนาด

ฮีธ เลดเจอร์ มีปัญหาอย่างรุนแรงจากอาการนอนไม่หลับ เขายังใช้ยาหลายขนาน ได้แก่ ยาแก้อาการนอนไม่หลับ Ambien ยาแก้อาการวิตกกังวล Valium ยาแก้ซึมเศร้า Zoloft ยาแก้อาการวิตกกังวล Xanax ยานอนหลับ Zoplicone และยาแก้แพ้ Donormyl

รายชื่อยาที่แจกแจงมานี้ ตัวแรกสุด คือ Ambien มีผลข้างเคียงสูง แม้แต่ดาราอาวุโสอย่าง แจ็ค นิโคลสัน ซึ่งรับบทโจ๊กเกอร์มาก่อน ก็ยังเกือบตายเพราะยาตัวนี้มาแล้ว

แจ็คเล่าว่า เขาใช้ยาตัวเดียวกันนี้ และมารู้สึกตัวตื่นกลางดึกเพราะมีคนโทรศัพท์มาปลุก เขาพบว่าตัวเองอยู่ในรถที่ขับออกมาจอดนอกบ้านไม่ไกลนัก แต่อีกนิดเดียวเขาก็จะตกลงไปในเหว

แจ็คยังบอกอีกว่า Ambien เล่นงานคุณได้ แต่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณ แต่เป็นความต้านทานในตัวของผู้ใช้แต่ละคน

แจ๊ค นิโคลสัน ภาพจาก


นอกจากนี้ ยา Valium เองก็เป็นยาอันตราย ที่อาจทำให้ถึงตายได้เช่นกัน สมัยก่อนใครจะฆ่าตัวตายก็มักจะกินแวลเลี่ยมนี่แหละ

        อ่านข่าวนี้แล้ว ผู้เขียนนึกเสียดายขึ้นว่า ทำไม? ...เขาถึงไม่ลองบำบัดกับการแพทย์ทางเลือก โดยเฉพาะการใช้อโรมาเธอราพี ทั้งที่ในสหรัฐฯ หรือเว็บออนไลน์มีทางเลือกมากมาย และเขาก็มีเงินมากพอที่จะเลือกด้วย

บางทีหากเขาเปิดโอกาสให้ตัวเอง เขาก็สามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้

        เพราะอาการเหล่านี้ อโรมาเธอราพีสามารถช่วยได้ โดยไม่มีผลข้างเคียง ที่ทำให้เขาต้องถึงแก่ชีวิตก่อนวัยอันควร

        อาการนอนไม่หลับ หรือเรียกว่า Insomnia เป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว ปัจจุบันพบว่ามีผู้ที่ประสบปัญหานี้มากขึ้นและรุนแรงขึ้น สาเหตุหลักก็คือ ความเครียด ทั้งแบบรู้สาเหตุและไม่รู้สาเหตุ

        เมื่อนอนไม่หลับ ก็จะทำให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา เช่น อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ขี้ลืม ตามมาด้วยโรคสารพัด เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคภูมิแพ้ โรคผิวหนังบางชนิด ทั้งหมดนี้ก็จะยิ่งสร้างความเครียดให้กับผู้ที่เป็นมากขึ้นๆ และอาการนอนไม่หลับก็รุนแรงขึ้น

        ทางออกที่พอจะคิดได้ของคนทั่วไปก็คือ ไปหาหมอ และรับประทานยานอนหลับ

ซึ่งการใช้ยานอนหลับก็ไม่ได้ให้ผลในการนอนหลับที่ดีเสมอไป ความเครียดที่มีนั้นยังคงอยู่ ทำให้เราต้องพึ่งยานอนหลับ และขาดมันไม่ได้ จนกลายเป็นการเสพติด

        ผู้เขียนเองก็ประสบปัญหาการนอนไม่หลับ หลับยาก และหลับไม่สนิทอยู่บ่อยๆ แต่ภายหลังจากได้รู้จักอโรมาเธอราพีแล้ว ผู้เขียนก็พบทางออกของการนอนหลับอย่างเป็นสุข สุขภาพจิต และสุขภาพกายก็ดีขึ้นด้วย

        อโรมาเธอราพีทำอย่างไรจึงช่วยให้เรานอนหลับได้ และมันเสพติดหรือไม่?

อโรมาเธอราพีเป็นศาสตร์ธรรมชาติบำบัดที่ใช้ประโยชน์จากกลิ่นหอม และเหมาะอย่างยิ่งกับการบำบัดความเครียดและอาการนอนไม่หลับ เพราะกลิ่นจะเข้าไปช่วยกล่อมเกลาระบบประสาทให้ผ่อนคลาย ลดความกระวนกระวาย ความฟุ้งซ่าน ทำให้เคลิบเคลิ้ม และช่วยให้นอนหลับได้ดีและหลับได้สนิทยิ่งขึ้น

เมื่อเรารับกลิ่นน้ำมันหอมเข้าสู่ร่างกาย กลิ่นจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับระบบต่อมไร้ท่อ ซึ่งควบคุมการหลั่งฮอร์โมนและเอ็นไซม์ต่างๆ หลังจากนั้นแล้ว ร่างกายก็จะขับส่วนที่เหลือออกไป จึงไม่มีการตกค้าง หรือทำให้เราเกิดการเสพติด จนต้องเพิ่มปริมาณการใช้แบบยาเคมี

การใช้กลิ่นบำบัดเพื่อช่วยให้นอนหลับ นิยมกันหลายวิธี เช่น การกระจายกลิ่นในห้องก่อนเข้านอน การผสมน้ำมันหอมในการอาบน้ำ หรือการใช้เป็นน้ำมันนวดควบคู่กับการนวดโดยผู้เชี่ยวชาญการนวดแบบผ่อนคลายก็ได้ผลดีเช่นกัน


นำช่อดอกลาเวนเดอร์แห้ง วางไว้ในห้องนอน ก็ช่วยให้หลับสบายได้
ภาพจาก อินเดอร์เน็ต


กลิ่นน้ำมันหอมที่มีคุณสมบัติช่วยในการแก้อาการนอนไม่หลับก็ เช่น ลาเวนเดอร์ คาโมไมล์ แมนดาริน สวีทมาร์โจแรม เนโรลิ เพตติตเกรน กุหลาบ ไม้จันทน์  แฝกหอม และกระดังงา ซึ่งจะใช้เพียงตัวเดียว หรือผสมกันให้เกิดเป็นกลิ่นใหม่ก็ได้

สำหรับคนทั่วไป ที่ผู้เขียนตรวจแล้วว่ามีธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุน้ำ และทดสอบว่า ชอบกลิ่นลาเวนเดอร์ คนเหล่านี้ ผู้เขียนแนะนำให้ใช้ลาเวนเดอร์ 2 หยด ในเตาระเหยก่อนนอน

ซึ่งได้ผลดีทุกคน ต่างบอกว่า ช่วยทำให้ผ่อนคลายขึ้น หลับได้ง่าย และหลับได้ลึก ตื่นมารู้สึกสดชื่น

        ส่วนคนที่ไม่ถูกกับกลิ่นลาเวนเดอร์ เช่นตัวผู้เขียนเอง ก็จะแนะนำให้ใช้สูตรผสม ซึ่งเราสามารถเลือกได้หลายสูตรที่ผู้เขียนจะแนะนำไว้ด้านล่างนี้

        หรือหากไม่อยากผสมเอง จะสั่งซื้อสูตร Sweet Dream ของผู้เขียนไปใช้แทนก็ได้

สูตรช่วยให้นอนหลับ 1
ลาเวนเดอร์
โรสวูด
เพตติตเกรน

สูตรช่วยให้นอนหลับ 2
แฝกหอม
ลาเวนเดอร์
ส้มออร์เร้นจ์

วิธีผสม ผสมน้ำมันหอมแต่ละตัวในสัดส่วนที่เท่ากัน เก็บไว้ในขวดแก้วสีขุ่น แล้วใช้ครั้งละ 2 หยด ก่อนนอน

        วิธีการใช้มีหลากหลายวิธี ที่ง่ายที่สุดก็คือ หยดน้ำมันหอมสัก 1 หยด ลงบนสำลีหรือทิชชู แล้วซุกในหมอน ให้เวลานอนมีกลิ่นระเหยออกมาจางๆ

        หรือหากมีเตาระเหยอยู่แล้ว ก็ใช้ได้เลย หยดเพียงแค่ 2 หยดเท่านั้นก็พอ



น้ำมันหอมสวีทดรีม สูตรของ Mystica Aromatherapy 450 บาท

       
        ง่ายๆ เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถมีนิทราอันแสนสุขได้

รายชื่อน้ำมันหอมที่ช่วยคลายเครียด ทำให้อารมณ์ดี ช่วยให้นอนหลับได้
Bergamot
Chamomile
Cedarwood
Clary sage
Frankincense
Grapefruit
Jasmine
Lavender
Mandarin
Marjoram, sweet
Melissa
Neroli
Orange
Palmarosa
Petiitgrain
Rose
Rosewood
Sandalwood
Tangerine
Vetiver

Ylang ylang

**********
ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยของมิสติกาอโรมาเธอราพี

น้ำมันหอมลาเวนเดอร์ 10 มล. 380 บาท

น้ำมันหอมซีดาร์วูด 10 มล. 280 บาท

น้ำมันหอมสวีทออร์เร้นจ์ 10 มล. 180 บาท

น้ำมันหอมสูตรสวีทดรีม 10 มล. 450 บาท

ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45 บาท

สนใจสอบถามสั่งซื้อได้ที่ อีเมล์ gaemnual@hotmail.co.th หรือLine : mystica4u

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

น้ำกุหลาบ หอม ชุ่มชื่น คลายเครียด

เคยเป็นกันใช่ไหม ไม่ว่าแต่งหน้าดีแค่ไหน พอตกเย็น หน้าก็จะโทรม

ผู้เขียนก็เป็น ยิ่งเจอทั้งลมแอร์ สลับกับอากาศร้อนจัดในวันเดียวกัน ไม่แค่โทรม ช่วงนั้นมีปัญหาผิวหน้าขาดน้ำ มักแสบ ระคายเคืองเพราะอากาศเป็นประจำ ตกเย็นหน้าจะโทรมมาก


กุหลาบมอญ หรือดามัสโรส Rosa Damascena


ตอนนั้นเพิ่งได้น้ำกุหลาบแบบออแกนิกมา จึงลองฉีดพรมหน้า เพื่อลดความแสบคัน วันนั้นจัดไป 3 ครั้ง หน้าหายคัน แสบ รู้สึกดี

ตกเย็น ต้องพบปะคนรู้จักหลายคน อากาศก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย แต่กลับถูกทักว่า หน้าสดชื่นจัง!

แปลกใจจนต้องแอบไปส่องกระจก

จริงด้วย เย็นวันนั้นหน้าตาไม่โทรมเลย ดูผิวผ่องใส ทั้งที่ไม่ได้แต่งหน้าหรือทำอะไรเพิ่ม นอกจากฉีดน้ำกุหลาบเท่านั้น

น้ำกุหลาบคืออะไร

คือน้ำที่ ได้จากการต้มกลั่นดอกกุหลาบสด หรือน้ำ by-product จากการกลั่นน้ำมันหอมระเหยกุหลาบ ลักษณะเป็นน้ำสีใสๆ หรืออาจมีสีเหลืองอ่อนๆ มีกลิ่นหอมกุหลาบบางๆ

เรียกว่า Rose water หรือ  Rose Hydrosole

น้ำกุหลาบมีการผลิตมาช้านานมาเป็นพันปีแล้ว แหล่งผลิตสำคัญในสมัยโบราณ และยังคงเป็นอยู่ในปัจจุบันคือ อิหร่าน หรือ เปอร์เซีย น้ำชนิดนี้ ไทยเรานำเข้ามาเป็นยาเรียกว่า น้ำดอกไม้เทศ


น้ำกุหลาบของอิหร่าน  จาก
 http://www.iranreview.org/content/Documents/Festival_of_Rose_and_Rose_Water.htm


การเก็บเกี่ยวกุหลาบเพื่อนำมาทำน้ำกุหลาบนี้ จะทำกันในเดือนเมษายน โดยไม่ใช่เครื่องจักร ยังคงต้องเก็บด้วยมือล้วนๆ ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น เพื่อให้ได้ดอกกุหลาบที่มีกลิ่นหอมที่สุด ก่อนนำมาผ่านกระบวนการโดยผู้เชี่ยวชาญจนได้มาเป็นน้ำดอกกุหลาบออเเกนิก

ประโยชน์ของน้ำกุหลาบ

ไม่ใช่เพียงแค่ความหอม น้ำกุหลาบถูกใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ สามคำสั้นๆ แต่เป็นอุตสาหกรรมใหญ่โตมโหฬาร

ในตะวันออกกลาง นำไปทำขนมหวานหลายอย่างเช่น nougat, gumdrops, raahat , baklava รวมทั้ง Turkish delight ด้วย 


การเก็บกุหลาบในอิหร่าน จาก
http://www.iranreview.org/content/Documents/Festival_of_Rose_and_Rose_Water.htm


การใช้เป็นยา ก็ใช้มาแต่โบราณ ไทยเราก็ใช้เป็นน้ำกระสายยา รักษาทั้งโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับศีรษะ โรคเกี่ยวกับท้อง รักษาผิวพรรณ

ด้านเครื่องสำอางค์ กุหลาบเป็นราชินีแห่งดอกไม้ และความงาม พระนางคลีโอพัตรา เป็นหนึ่งในผู้หลงใหลกุหลาบ และใช้กุหลาบบำรุงความงามจนเลื่องชื่อ เครื่องสำอางค์ดังๆ มากมายที่มีส่วนผสมของน้ำกุหลาบ โดยเฉพาะในฝรั่งเศส

กุหลาบนั้นขึ้นชื่อในเรื่องดูแลผิวพรรณ ทำให้เซลล์ฟื้นตัวได้ดี ผิวจึงดูอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอย ลดความแห้งกร้าน หมองคล้ำ ทั้งยังช่วยเรื่องแก้การอักเสบ ติดเชื้อ จึงรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวได้ดี

น้ำกุหลาบยังถูกใช้ในด้านพิธีกรรมอีกด้วย ทั้งมุสลิม ฮินดู และโซโรแอสเตอร์ แท้จริงแล้วในศาสนาโบราณ ก็ล้วนแต่ใช้น้ำกุหลาบ ในพิธีกรรมและการบูชาเทพ ปัจจุบันก็ยังคงใช้กันอยู่ ผู้เขียนเองก็ได้ลองนำน้ำกุหลาบมาพรมถวายพระ ก็ได้ผลดี

เหตุเพราะปราณและพลังชีวิตในน้ำกุหลาบเป็นปราณที่มีความประณีต จึงเป็นเครื่องหอมที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไหนก็โปรดปราน

ผู้เขียนได้สั่งน้ำกุหลาบชนิดที่ดีเยี่ยม คือ น้ำกุหลาบดามัสออแกนิก จากอิหร่าน ซึ่งมาจากเเหล่งที่เครื่องสำอางธรรมชาติของฝรั่งเศสนิยมใช้นำไปเป็นส่วนผสม เเละยังได้รับมาตรฐานของ Soil Association Organic Standard เป็นน้ำกุหลาบแท้ ไม่ใช่ของสังเคราะห์ มีคุณสมบัติดีๆ ของน้ำกุหลาบอย่างเต็มเปี่ยม

น้ำกุหลาบดามัสออแกนิก บรรจุในขวดสเปรย์ขนาด 100 มล. ใช้ง่าย ในราคาขวดละ 550 บาท และขนาดพกพาสะดวก 30 มล. 250บาท ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45 บาท

สนใจสอบถามสั่งซื้อ ได้ที่ gaemnual@hotmail.co.th หรืออินบ็อกซ์ในเฟสบุ๊ค


น้ำกุหลาบ สเปรย์ 100 มล.


วิธีการใช้สเปรย์น้ำกุหลาบออแกนิกของมิสติกาอโรมาเธอราพี

1. ฉีดพรมผิวหน้า ได้ตามต้องการ แม้แต่งหน้าแล้ว ช่วยลดความร้อน ความแห้งกร้าน ทำให้ผิวหน้ชุ่มชื้น สดชื่น ช่วยลดริ้วรอย ความหมองคล้ำ

2. ใช้เป็นโทนเนอร์ หลังล้างหน้า หยดน้ำกุหลาบลงบนสำลี เช็ดให้ทั่วหน้า ช่วยกระชับรูขุมขน สร้างสมดุลย์การหลั่งไขมัน ลดการอักเสบจากสิว ลดรอยแดงอักเสบจากผื่นคัน หรือแพ้แดด

3. ฉีดพรมบนผิวที่มีอาการคัน ระคายเคือง แพ้ ถูกแดดเผา เพื่อลดอาการ และทำให้ผิวดีขึ้น

4. ฉีดพรมหน้าและตัว เพื่อคลายเครียด ทำให้รู้สึกสบาย สดชื่น มีความสุข ลดอาการปวดหัว และอาการไม่สบายที่เกิดจากความเครียด

5. ฉีดพรมหน้าและตัวก่อนนอน ช่วยให้หลับสบาย

6. ฉีดพรมบนผมและหนังศีรษะ ลดอาการคัน ระคายเคือง แพ้ มีรังแค ฉีดพรมให้ทั่ว แล้วปล่อยให้แห้ง หรือจะใช้พัดลมช่วยเป่าก็ได้

7. ผสมกับโคลน หรือดินสอพอง หรือผงพอก ใช้พอกหน้า หรือตัว

8. ฉีดพรมบนพระพุทธรูป เทวรูป และรูปเคารพ สร้างความสดชื่น สว่างไสว และพลังปราณที่ดีแก่แท่นบูชา โดยสามารถพรมได้ทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงที่ถวายบูชาดอกไม้ และเครื่องสักการะอื่น ให้ฉีดพรมก่อนจุดธูปหรือกำยาน



น้ำกุหลาบ สเปรย์ขวดเล็ก 30 มล. ขนาดพกพาสะดวก

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วิธีการใช้น้ำมันหอมระเหย

        การนำน้ำมันหอมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เราต้องรู้จักเลือกเทคนิควิธีการนำไปใช้ด้วย ซึ่งมีตั้งแต่แบบง่ายๆ ไปจนถึงซับซ้อน

        จำไว้ว่า หลักสำคัญก็คือ การให้ไอระเหยของน้ำมันหอมผ่านเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งมี 2 ทางใหญ่ๆ คือ ทางการสูดดม และทางการทาบนผิว

        เรียกว่า ทั้งดมทั้งทาในขวดเดียวกัน ก็ว่าได้

        ทั้งสองทางมีวิธีการใช้ที่หลากหลาย ตั้งแต่แบบง่ายสุดที่ใช้เพียงน้ำมันหอมเพียงอย่างเดียว ไปจนถึงวิธีการซับซ้อนที่ต้องอาศัยสารประกอบและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

ในที่นี้ ผู้เขียนจะแนะนำวิธีการใช้น้ำมันหอมซึ่งเราสามารถใช้ได้ด้วยตัวเอง ด้วยอุปกรณ์และวิธีการที่ง่ายๆ เหมาะกับคนทั่วไป สามารถนำมาใช้ได้สะดวกและได้รับประโยชน์จากอโรมาเธอราพีอย่างเต็มที่

การใช้โดยทั่วไป

        1 การสูดดมโดยตรง หยดน้ำมันหอมที่ต้องการลงบนสำลี ทิชชู่ หรือผ้าเช็ดหน้า 1-2 หยด สูดดมได้ตามต้องการ เหมาะกับการแก้อาการเฉียบพลัน ปวดหัว เป็นหวัด คลื่นไส้ ตกใจ ต้องการความสงบ เป็นต้น




        2 การใช้เตาระเหยกลิ่น ใส่น้ำอุ่นลงในจานรอง จุดไฟหรือเปิดสวิทซ์ แล้วหยดน้ำมันหอม 3-4 หยดลงในน้ำ วิธีนี้เป็นวิธีที่รู้จักกันทั่วไป ดูพิถีพิถัน โรแมนติค ช่วยสร้างบรรยากาศและเป็นเครื่องตกแต่งบ้านได้ เหมาะกับการสร้างบรรยากาศต่างๆ ขจัดเชื้อในอากาศ แก้กลิ่นอับ ทำให้สงบ ทำให้สดชื่น เป็นต้น




        3 การใช้เครื่องกระจายกลิ่นพิเศษ เครื่องมือเหล่านี้มีอยู่ 2-3 แบบ ได้แก่ Streamer, Nebulizer และ Diffuser เป็นเครื่องที่ใช้ไฟฟ้า ทำให้น้ำมันหอมแตกตัว ระเหยเป็นไอให้กลิ่นออกมา เครื่องแต่ละแบบมีการออกแบบมาแตกต่างกัน




บางตัวสามารถปล่อยประจุอิออนได้ บางตัวก็ปล่อยออกซิเจนออกมาได้ ล้วนแต่เป็นเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีเข้ามาประกอบ ทำให้มีราคาสูง แต่ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการระเหยกลิ่นน้ำมันหอม เพราะไม่ทำให้อุณหภูมิสูง หรือมีการเผาไหม้ ที่อาจทำให้องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมเปลี่ยนไป

การใช้กับน้ำ

        น้ำมันหอมระเหยเป็นน้ำมันที่ไม่รวมตัวกับน้ำ แต่เราสามารถใช้น้ำเป็นสื่อในการใช้น้ำมันหอมได้ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

        1) หยดน้ำมันหอมลงในน้ำร้อน วางไว้ข้างๆ ตัวหรือในห้องที่ต้องการให้มีกลิ่น ใช้แทนเครื่องกระจายกลิ่นได้

        2) สูดไอร้อน Stream inhalation




ต้มน้ำ 1 ลิตรให้เดือด เทลงในอ่าง ทิ้งไว้ 5 นาที หยดน้ำมันหอม 3-4 หยด ใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่คลุมศีรษะและหน้า ก้มลงเหนืออ่าง หลับตา เพื่อสูดไอระเหย หรือใช้เพื่ออบไอน้ำหน้า วิธีการนี้เหมาะมากกับการแก้หวัด คัดจมูก แต่ไม่เหมาะกับการแก้อาการหอบหืด

        3) การประคบร้อนและเย็น

หยดน้ำมันหอมลงในน้ำร้อน หรือน้ำเย็น (5 หยด) ใช้ผ้าชุบน้ำ บิดให้หมาด มาประคบตามบริเวณที่ต้องการ

การประคบร้อนเหมาะกับการแก้อาการปวดท้อง ตะคริว ปวดเมื่อย ปวดประจำเดือน ส่วนการประคบเย็นเหมาะกับการฟกช้ำ ข้อเคล็ด เป็นไข้ แก้อักเสบ ไมเกรน

        4 )การแช่อาบ

รองน้ำอุ่นลงในอ่างอาบน้ำ (สำหรับแช่ตัว) หรือชามอ่าง (นั่งแช่, แช่มือแช่เท้า) ผสมน้ำมันหอมระเหยกับน้ำมันรองพื้น เกลือ หรือน้ำส้มวินิการ์ 1-2 ช้อนโต๊ะคนให้เข้ากันแล้วเทลงในน้ำ แล้วลงแช่ 10-20 นาที

การทำผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราพีอย่างง่าย

        เป็นการนำน้ำมันหอมระเหยไปผสมกับสิ่งเจือจางอื่นๆ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเจือจางของน้ำมันหอมในอัตราส่วนที่เหมาะสมที่จะใช้ได้อย่างปลอดภัย

        1) น้ำมันนวด

เป็นการนำน้ำมันหอมมาเจือจางด้วยน้ำมันรองพื้น ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และใช้ได้อย่างกว้างขวาง ความเข้มข้นมีตั้งแต่ 0.5-10 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ เช่น ใช้กับหน้าไม่ควรเกิน 1 เปอร์เซ็นต์ ใช้กับตัวสำหรับบำรุงผิวแทนโลชั่นไม่ควรเกิน 2 เปอร์เซ็นต์ แต่หากต้องการแก้อาการปวด อาจต้องสูงถึง 8 เปอร์เซ็นต์


น้ำมันนวด Slimming Massage oil ใช้ทาเพื่อช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน และเซลลูไลต์ สนใจสอบถามสั่งซื้อได้ที่ gaemnual@hotmail.co.th


        น้ำมันรองพื้นที่นิยมใช้โดยทั่วไปได้แก่ สวีทอัลมอนด์ เมล็ดองุ่น แมคคาเดเนีย ทานตะวัน มะพร้าว งา และมะกอก

อัตราส่วนที่ใช้สำหรับนวดตัวโดยทั่วไปนิยมที่ 5 เปอร์เซ็นต์ หรือใช้น้ำมันรองพื้นที่ 30 มิลลิลิตร กับน้ำมันหอม 30 หยด หรือต่ำกว่านี้ก็ได้

2) สเปรย์น้ำ (Mist spray)

ใช้น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร หยดน้ำมันหอม 10 หยด เขย่าให้เข้ากัน ทิ้งไว้อย่างน้อย 7 วัน ให้เขย่าทุกวัน แล้วกรองด้วยกระดาษกรองกาแฟ ใช้เป็นมิสต์สเปรย์หรือเป็นโทนเนอร์ก็ได้

การทำน้ำหอมส่วนตัว

เราสามารถทำน้ำหอมส่วนตั๊วส่วนตัวของเราได้อย่างง่ายๆ ด้วยการใช้น้ำมันหอมระเหย ที่เป็นสูตรเฉพาะของเราเอง ทั้งยังให้ประโยชน์กับสุขภาพอีกด้วย

1) เพอร์ฟูมออยล์

เป็นน้ำหอมที่มีตัวทำละลายเป็นน้ำมัน โดยเราใช้โจโจบาออยล์เป็นน้ำมันรองพื้น ผสมน้ำมันหอมได้ไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับสูตรและความชอบ ให้ผสมน้ำมันหอมตามสูตรที่ต้องการไว้ก่อนล่วงหน้า 1-2 วัน แล้วจึงนำมาผสมกับโจโจบาออยล์ เก็บไว้ในขวดแก้วสีชา ใช้เป็นน้ำหอมคู่กายได้ทุกวัน

สัดส่วนการผสมเพอร์ฟูมออยล์

ใช้โจโจบาออยล์ 15 มิลลิลิตร (1 ช้อนโต๊ะ)
ผสมกับน้ำมันหอม         5 หยด          ความเข้มข้นที่ได้ 5 %
                                10 หยด                              10 %
                                15 หยด                              15%
                                20 หยด                              20 %

2) การทำโอเดอโคโลญน์

        โอเดอโคโลญน์คือน้ำหอมที่ผสมกับอัลกอฮอล์ โดยมีน้ำมันหอมอยู่ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ในที่นี้ ผู้เขียนจะแนะนำสูตรผสมกับวอดก้า

สูตรผสมวอดก้า            วอดก้า       4.5 ช้อนชา
                                น้ำมันหอม   30 หยด
                                น้ำสะอาด    2 ช้อนชา


วิธีการผสม
1 ผสมน้ำมันหอมตามสูตรที่ต้องการไว้ล่วงหน้า 1-2 วัน
2 ผสมน้ำมันหอมเข้ากับวอดก้าหรืออัลกอฮอล์ตามสัดส่วน แล้วทิ้งไว้อีก 1 คืนเป็นอย่างน้อย
3 ค่อยๆ เติมน้ำ ไม่จำเป็นต้องเติมหมด หากเติมน้ำแล้วส่วนผสมเริ่มขุ่น ให้หยุดเติม เขย่าทิ้งไว้อีก 1 คืน ก็สามารถนำมาใช้ได้

        เห็นไหมว่า เรามีวิธีนำน้ำมันหอมมาใช้ได้อย่างหลากหลาย ชอบใช้แบบง่ายๆ หรือว่าแบบพิถีพิถันก็ทำได้หมด

        และไม่ว่าด้วยวิธีไหน เราก็ได้รับประโยชน์จากอโรมาเธอราพี


วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หนังสืออโรมาเธอราพี ผลงานรวมเล่ม

ผู้เขียนได้แต่งหนังสือเกี่ยวกับอโรมาเธอราพี และได้รับการตีพิมพ์แล้ว 2 เล่มด้วยกัน

คือ มหัศจรรย์น้ำมันหอมระเหย   ตีพิมพ์ในปีพ.ศ. 2547 และ อโรมาเธอราพีกับจักรราศี ตีพิมพ์เมื่อปี 2550

ผู้เขียนลงมือแต่งหนังสือเล่มแรก ภายหลังจากจบวิชาอโรมาเธอราพีจากโรงเรียนน้ำมันหอมระเหย พบว่า หนังสือเกี่ยวกับอโรมาเธอราพีภาษาไทย แทบไม่มีเลย ที่มีอยู่ก็ไม่อาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจและรู้จักถึงประโยชน์ของอโรมาเธอราพีได้

ประกอบกับเมื่อเรียนจบแล้ว ผู้เขียนยังได้ศึกษาค้นคว้าต่อด้วยตัวเอง ตลอดจนซื้อหาวัตถุดิบ (ซื้งหาซื้อยากมากในเวลานั้น) เพื่อนำมาทดลองสูตรต่างๆ

ความประทับใจในความมหัศจรรย์ของอโรมาเธอราพี ที่ตอบโจทย์หลากอย่างในชีวิตของผู้เขียนได้ และเชื่อว่า จะมีประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่นได้เช่นกัน ทำให้ผู้เขียนตัดสินใจลงมือเขียนหนังสือเล่มนี้อย่างทุ่มเท




ผู้เขียนใช้เวลาถึง 1 ปีเต็มในการแต่งหนังสือ เตรียมวัตถุดิบ ถ่ายภาพ และหาภาพประกอบอื่นๆ จนหนังสือเสร็จสมบูรณ์ และกำลังมองหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์

ผู้เขียนอ่านทบทวนงานทั้งหมดแล้ว ก็ตัดสินใจรื้อลำดับหนังสือใหม่

และนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง การแก้ลำดับเรื่องใหม่ ทำให้หนังสือน่าอ่าน อ่านสนุก

และเมื่อวางแผงจำหน่ายแล้ว ก็กลายเป็นหนังสือขายดีติดอันดับในหมวดหนังสือเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณา และมีหลายคนถือหนังสือเล่มนี้เข้าไปขอเรียนวิชากับอาจารย์ที่สอนวิชาอโรมาเธอราพี




หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นคู่มือของผู้ศึกษาศาสตร์แห่งสุคนธบำบัด หรือ Aromatherapy ฉบับสมบูรณ์เล่มแรกของเมืองไทย ซึ่งให้ความรู้ในเรื่องของอโรมาเธอราพีที่แท้จริง และครอบคลุมเนื้อหาที่ผู้สนใจควรรู้ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

เนื้อหาประกอบด้วย ประวัติศาสตร์ความเป็นมา น้ำมันหอมระเหยคืออะไร มีการผลิตอย่างไร ผลที่พึงได้จากการใช้น้ำมันหอมระเหย การใช้น้ำมันหอมระเหยตามหลักธาตุเจ้าเรือน ข้อมูลน้ำมันหอมระเหย 26 ชนิด เทคนิคการใช้น้ำมันหอมระเหย การทำผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราพีด้วยตัวเอง การเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยตามอาการและสภาพอารมณ์

นอกจากนี้ยัง แนะนำแหล่งเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหย และบทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำมันหอมระเหยในเมืองไทย

ขนาด 17x24 ซ.ม. ภาพประกอบสีตลอดเล่ม จัดพิมพ์โดยสนพ.เพชรการเรือน พ.ศ.2547 ราคาปก 295 บาท

ต้องการซื้อเล่มนี้ โปรดติดต่อ สำนักพิมพ์ โทร 02-940-3855-6 , 02-940-3979-80

*หมายเหตุ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฏาคม 2560 ทางสำนักพิมพ์ได้แจ้งว่า หนังสือเล่มนี้หมดแล้วค่ะ 

หลังจากเขียนหนังสือเล่มแรกจบ และได้ตีพิมพ์ออกจำหน่าย ปรากฏว่า มีผู้อ่านหลายคน บอกกับผู้เขียนว่า หนังสือมีเนื้อหามาก อ่านยาก!

ผู้เขียนอึ้งไปเลยค่ะ

เพราะตั้งใจเขียนให้อ่านสนุก ไม่ใช้ศัพท์วิชาการมากนัก แต่ก็พยายามให้ข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้ให้มากที่สุด ชนิดที่ว่า มีเท่าไหร่เทหมดหน้าตัก

เล่าทั้งประวัติความเป็นมา ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ แต่รู้ไว้ก็สนุกดี ให้ข้อมูลวิชาการที่จำเป็น เช่น การสกัด ชื่อวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เวลาเลือกซื้อน้ำมันหอม

ข้อมูลจำเพาะของน้ำมันหอมยอดฮิต สำหรับการนำมาใช้เบื้องต้น วิธีการใช้ การผสม (ซึ่งในคอร์สที่สอนก็ไม่มีให้ เราค้นคว้าเอง)

มีบทสัมภาษณ์จากประสบการณ์ของคนในวงการ มีแหล่งซื้อของให้

ให้หมดชนิดที่ว่า ใครอ่านแล้ว เอาไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องลงคอร์สเรียนให้เปลืองเงิน

ภายหลังผู้เขียนจึงค่อยเข้าใจ น้ำมันหอมระเหย ไม่ใช่สิ่งที่คนไทยคุ้นเคย จึงไม่อาจมองภาพหรือเข้าใจการใช้งานได้ คนไทยไม่นิยมการทำผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง แต่นิยมของสำเร็จรูปที่ใช้งานได้เลย

เมื่อเข้าใจดังนี้แล้ว ผู้เขียนก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่า หากจะเขียนอะไรต้องทำให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะง่ายเข้าไว้

ผู้เขียนยังคงศึกษาเรื่องอโรมาเธอราพีด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง และได้มารู้จักกับการใช้อโรมาเธอราพีกับศาสตร์อื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ในกระแสโลก

กระแสหนึ่งคือการใช้อโรมาเธอราพีตามจักรราศี

เมื่อทดลองใช้แล้วก็พบว่า ได้รับผลดีจริงเช่นกัน ประกอบกับเห็นว่า คนไทยชอบเรื่องการทำนายทายทัก หากเผยแพร่ความรู้เรื่องอโรมาเธอราพีที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเหล่านี้ น่าจะเป็นที่ถูกใจ และทำให้คนหันมาใช้อโรมาเธอราพีเพิ่มขึ้น


จึงตัดสินใจเขียนหนังสือเล่มที่ 2 อโรมาเธอราพีกับจักรราศี 
   



ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์แห่งสุคนธบำบัด หรือ Aromatherapy เล่มแรกของเมืองไทย และหนึ่งในไม่กี่เล่มของโลก ที่เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างการใช้น้ำมันหอมระเหยกับอิทธิพลแห่งราศีเกิด ประสานความรู้ของ 2 ศาสตร์ที่สืบทอดกันต่อเนื่องมายาวนานนับพันปีเข้าด้วยกัน

ราศีเกิดทั้ง 12 ราศี ทำให้แต่ละบุคคลมีดวงชะตา บุคลิกภาพ การใช้ชีวิต ปัญหาสุขภาพ และสิ่งที่ถูกโฉลกแตกต่างกันฉันใด การใช้น้ำมันหอมระเหยเพื่อสร้างสมดุลในร่างกายและจิตวิญญาณ ก็ย่อมมีความแตกต่างกันไปด้วยฉันนั้น

และนี่คือเคล็ดลับในการใช้น้ำมันหอมระเหยให้ถูกต้องตามอิทธิพลแห่งจักรราศี เป็นคู่มือที่ให้ทั้งสูตรซึ่งปรุงเฉพาะราศีของคุณ ทั้งในการบำบัดปัญหาด้านสุขภาพและอารมณ์ ตลอดจนเสริมบุคลิกและไลฟ์สไตล์ของชาว 12 ราศี

ทั้งเทคนิคกลวิธีในการที่จะเลือกซื้อเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด และบทสัมภาษณ์คนเด่นในสังคมที่มีประสบการณ์ในการใช้น้ำมันหอมระเหยได้ผลมาแล้ว

ขนาด 14x21 ซ.ม. ภาพประกอบสีตลอดเล่ม จัดพิมพ์โดยบริษัทลิปส์ พับลิชชิ่ง จำกัด พ.ศ.2550 ราคาปก  175  บาท 

หนังสือเล่มนี้ จะอ่านเอาเพลิน หรืออ่านเอาประโยชน์ก็ได้ทั้งนั้น หลายคนคอนเฟิร์ม เรื่องทำนายทายทักประจำราศีนั้นแม่นจริง

สนใจเล่มนี้ สั่งซื้อที่สำนักพิมพ์ลิปส์ 02-250-4560-7