การนำน้ำมันหอมไปใช้ให้เกิดประโยชน์
เราต้องรู้จักเลือกเทคนิควิธีการนำไปใช้ด้วย ซึ่งมีตั้งแต่แบบง่ายๆ ไปจนถึงซับซ้อน
จำไว้ว่า หลักสำคัญก็คือ
การให้ไอระเหยของน้ำมันหอมผ่านเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งมี 2 ทางใหญ่ๆ คือ ทางการสูดดม
และทางการทาบนผิว
เรียกว่า
ทั้งดมทั้งทาในขวดเดียวกัน ก็ว่าได้
ทั้งสองทางมีวิธีการใช้ที่หลากหลาย
ตั้งแต่แบบง่ายสุดที่ใช้เพียงน้ำมันหอมเพียงอย่างเดียว
ไปจนถึงวิธีการซับซ้อนที่ต้องอาศัยสารประกอบและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ในที่นี้
ผู้เขียนจะแนะนำวิธีการใช้น้ำมันหอมซึ่งเราสามารถใช้ได้ด้วยตัวเอง
ด้วยอุปกรณ์และวิธีการที่ง่ายๆ เหมาะกับคนทั่วไป สามารถนำมาใช้ได้สะดวกและได้รับประโยชน์จากอโรมาเธอราพีอย่างเต็มที่
การใช้โดยทั่วไป
1
การสูดดมโดยตรง หยดน้ำมันหอมที่ต้องการลงบนสำลี ทิชชู่ หรือผ้าเช็ดหน้า 1-2 หยด
สูดดมได้ตามต้องการ เหมาะกับการแก้อาการเฉียบพลัน ปวดหัว เป็นหวัด คลื่นไส้ ตกใจ
ต้องการความสงบ เป็นต้น
2
การใช้เตาระเหยกลิ่น ใส่น้ำอุ่นลงในจานรอง จุดไฟหรือเปิดสวิทซ์ แล้วหยดน้ำมันหอม
3-4 หยดลงในน้ำ วิธีนี้เป็นวิธีที่รู้จักกันทั่วไป ดูพิถีพิถัน โรแมนติค
ช่วยสร้างบรรยากาศและเป็นเครื่องตกแต่งบ้านได้ เหมาะกับการสร้างบรรยากาศต่างๆ
ขจัดเชื้อในอากาศ แก้กลิ่นอับ ทำให้สงบ ทำให้สดชื่น เป็นต้น
3
การใช้เครื่องกระจายกลิ่นพิเศษ เครื่องมือเหล่านี้มีอยู่ 2-3 แบบ ได้แก่ Streamer, Nebulizer และ Diffuser เป็นเครื่องที่ใช้ไฟฟ้า
ทำให้น้ำมันหอมแตกตัว ระเหยเป็นไอให้กลิ่นออกมา
เครื่องแต่ละแบบมีการออกแบบมาแตกต่างกัน
บางตัวสามารถปล่อยประจุอิออนได้
บางตัวก็ปล่อยออกซิเจนออกมาได้ ล้วนแต่เป็นเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีเข้ามาประกอบ
ทำให้มีราคาสูง แต่ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการระเหยกลิ่นน้ำมันหอม
เพราะไม่ทำให้อุณหภูมิสูง หรือมีการเผาไหม้
ที่อาจทำให้องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมเปลี่ยนไป
การใช้กับน้ำ
น้ำมันหอมระเหยเป็นน้ำมันที่ไม่รวมตัวกับน้ำ
แต่เราสามารถใช้น้ำเป็นสื่อในการใช้น้ำมันหอมได้ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1)
หยดน้ำมันหอมลงในน้ำร้อน วางไว้ข้างๆ ตัวหรือในห้องที่ต้องการให้มีกลิ่น
ใช้แทนเครื่องกระจายกลิ่นได้
2)
สูดไอร้อน Stream
inhalation
ต้มน้ำ 1 ลิตรให้เดือด เทลงในอ่าง
ทิ้งไว้ 5 นาที หยดน้ำมันหอม 3-4 หยด ใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่คลุมศีรษะและหน้า
ก้มลงเหนืออ่าง หลับตา เพื่อสูดไอระเหย หรือใช้เพื่ออบไอน้ำหน้า
วิธีการนี้เหมาะมากกับการแก้หวัด คัดจมูก แต่ไม่เหมาะกับการแก้อาการหอบหืด
3)
การประคบร้อนและเย็น
หยดน้ำมันหอมลงในน้ำร้อน หรือน้ำเย็น
(5 หยด) ใช้ผ้าชุบน้ำ บิดให้หมาด มาประคบตามบริเวณที่ต้องการ
การประคบร้อนเหมาะกับการแก้อาการปวดท้อง
ตะคริว ปวดเมื่อย ปวดประจำเดือน ส่วนการประคบเย็นเหมาะกับการฟกช้ำ ข้อเคล็ด
เป็นไข้ แก้อักเสบ ไมเกรน
4
)การแช่อาบ
รองน้ำอุ่นลงในอ่างอาบน้ำ
(สำหรับแช่ตัว) หรือชามอ่าง (นั่งแช่, แช่มือแช่เท้า)
ผสมน้ำมันหอมระเหยกับน้ำมันรองพื้น เกลือ หรือน้ำส้มวินิการ์ 1-2 ช้อนโต๊ะคนให้เข้ากันแล้วเทลงในน้ำ
แล้วลงแช่ 10-20 นาที
การทำผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราพีอย่างง่าย
เป็นการนำน้ำมันหอมระเหยไปผสมกับสิ่งเจือจางอื่นๆ
ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเจือจางของน้ำมันหอมในอัตราส่วนที่เหมาะสมที่จะใช้ได้อย่างปลอดภัย
1)
น้ำมันนวด
เป็นการนำน้ำมันหอมมาเจือจางด้วยน้ำมันรองพื้น
ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และใช้ได้อย่างกว้างขวาง ความเข้มข้นมีตั้งแต่ 0.5-10
เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ เช่น ใช้กับหน้าไม่ควรเกิน 1
เปอร์เซ็นต์ ใช้กับตัวสำหรับบำรุงผิวแทนโลชั่นไม่ควรเกิน 2 เปอร์เซ็นต์
แต่หากต้องการแก้อาการปวด อาจต้องสูงถึง 8 เปอร์เซ็นต์
![]() |
น้ำมันนวด Slimming Massage oil ใช้ทาเพื่อช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน และเซลลูไลต์ สนใจสอบถามสั่งซื้อได้ที่ gaemnual@hotmail.co.th |
น้ำมันรองพื้นที่นิยมใช้โดยทั่วไปได้แก่
สวีทอัลมอนด์ เมล็ดองุ่น แมคคาเดเนีย ทานตะวัน มะพร้าว งา และมะกอก
อัตราส่วนที่ใช้สำหรับนวดตัวโดยทั่วไปนิยมที่
5 เปอร์เซ็นต์ หรือใช้น้ำมันรองพื้นที่ 30 มิลลิลิตร กับน้ำมันหอม 30 หยด
หรือต่ำกว่านี้ก็ได้
2)
สเปรย์น้ำ (Mist
spray)
ใช้น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร
หยดน้ำมันหอม 10 หยด เขย่าให้เข้ากัน ทิ้งไว้อย่างน้อย 7 วัน ให้เขย่าทุกวัน
แล้วกรองด้วยกระดาษกรองกาแฟ ใช้เป็นมิสต์สเปรย์หรือเป็นโทนเนอร์ก็ได้
การทำน้ำหอมส่วนตัว
เราสามารถทำน้ำหอมส่วนตั๊วส่วนตัวของเราได้อย่างง่ายๆ
ด้วยการใช้น้ำมันหอมระเหย ที่เป็นสูตรเฉพาะของเราเอง
ทั้งยังให้ประโยชน์กับสุขภาพอีกด้วย
1)
เพอร์ฟูมออยล์
เป็นน้ำหอมที่มีตัวทำละลายเป็นน้ำมัน
โดยเราใช้โจโจบาออยล์เป็นน้ำมันรองพื้น ผสมน้ำมันหอมได้ไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์
ขึ้นอยู่กับสูตรและความชอบ ให้ผสมน้ำมันหอมตามสูตรที่ต้องการไว้ก่อนล่วงหน้า 1-2
วัน แล้วจึงนำมาผสมกับโจโจบาออยล์ เก็บไว้ในขวดแก้วสีชา ใช้เป็นน้ำหอมคู่กายได้ทุกวัน
สัดส่วนการผสมเพอร์ฟูมออยล์
ใช้โจโจบาออยล์
15 มิลลิลิตร (1 ช้อนโต๊ะ)
ผสมกับน้ำมันหอม 5 หยด
ความเข้มข้นที่ได้ 5 %
10 หยด 10 %
15 หยด 15%
20 หยด 20 %
2)
การทำโอเดอโคโลญน์
โอเดอโคโลญน์คือน้ำหอมที่ผสมกับอัลกอฮอล์
โดยมีน้ำมันหอมอยู่ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ในที่นี้
ผู้เขียนจะแนะนำสูตรผสมกับวอดก้า
สูตรผสมวอดก้า วอดก้า 4.5 ช้อนชา
น้ำมันหอม 30 หยด
น้ำสะอาด 2 ช้อนชา
วิธีการผสม
1
ผสมน้ำมันหอมตามสูตรที่ต้องการไว้ล่วงหน้า 1-2 วัน
2
ผสมน้ำมันหอมเข้ากับวอดก้าหรืออัลกอฮอล์ตามสัดส่วน แล้วทิ้งไว้อีก 1
คืนเป็นอย่างน้อย
3
ค่อยๆ เติมน้ำ ไม่จำเป็นต้องเติมหมด หากเติมน้ำแล้วส่วนผสมเริ่มขุ่น ให้หยุดเติม
เขย่าทิ้งไว้อีก 1 คืน ก็สามารถนำมาใช้ได้
เห็นไหมว่า เรามีวิธีนำน้ำมันหอมมาใช้ได้อย่างหลากหลาย ชอบใช้แบบง่ายๆ หรือว่าแบบพิถีพิถันก็ทำได้หมด
และไม่ว่าด้วยวิธีไหน เราก็ได้รับประโยชน์จากอโรมาเธอราพี
ขอบคุณมากค่ะ กระจ่างขึ้นเยอะเลย ^0^
ตอบลบจะได้เลือกวิธีใช้ได้หลากหลายไงคะ ^__^
ลบอโรมามันไม่ใช่เคมีและระเหยได้ เอามาทำน้ำหอมจะอยู่ได้ทั้งวันมั้ยคะ
ตอบลบต้องยอมรับตรงๆ ว่า อยู่ได้ไม่นานขนาดนั้นค่ะ แต่ก็มีวิธีที่จะให้กลิ่นอยู่นานๆ นะคะ อยู่ที่การเลือกตัวน้ำมันหอมค่ะ
ลบ