วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วิธีการใช้น้ำมันหอมระเหย

        การนำน้ำมันหอมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เราต้องรู้จักเลือกเทคนิควิธีการนำไปใช้ด้วย ซึ่งมีตั้งแต่แบบง่ายๆ ไปจนถึงซับซ้อน

        จำไว้ว่า หลักสำคัญก็คือ การให้ไอระเหยของน้ำมันหอมผ่านเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งมี 2 ทางใหญ่ๆ คือ ทางการสูดดม และทางการทาบนผิว

        เรียกว่า ทั้งดมทั้งทาในขวดเดียวกัน ก็ว่าได้

        ทั้งสองทางมีวิธีการใช้ที่หลากหลาย ตั้งแต่แบบง่ายสุดที่ใช้เพียงน้ำมันหอมเพียงอย่างเดียว ไปจนถึงวิธีการซับซ้อนที่ต้องอาศัยสารประกอบและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

ในที่นี้ ผู้เขียนจะแนะนำวิธีการใช้น้ำมันหอมซึ่งเราสามารถใช้ได้ด้วยตัวเอง ด้วยอุปกรณ์และวิธีการที่ง่ายๆ เหมาะกับคนทั่วไป สามารถนำมาใช้ได้สะดวกและได้รับประโยชน์จากอโรมาเธอราพีอย่างเต็มที่

การใช้โดยทั่วไป

        1 การสูดดมโดยตรง หยดน้ำมันหอมที่ต้องการลงบนสำลี ทิชชู่ หรือผ้าเช็ดหน้า 1-2 หยด สูดดมได้ตามต้องการ เหมาะกับการแก้อาการเฉียบพลัน ปวดหัว เป็นหวัด คลื่นไส้ ตกใจ ต้องการความสงบ เป็นต้น




        2 การใช้เตาระเหยกลิ่น ใส่น้ำอุ่นลงในจานรอง จุดไฟหรือเปิดสวิทซ์ แล้วหยดน้ำมันหอม 3-4 หยดลงในน้ำ วิธีนี้เป็นวิธีที่รู้จักกันทั่วไป ดูพิถีพิถัน โรแมนติค ช่วยสร้างบรรยากาศและเป็นเครื่องตกแต่งบ้านได้ เหมาะกับการสร้างบรรยากาศต่างๆ ขจัดเชื้อในอากาศ แก้กลิ่นอับ ทำให้สงบ ทำให้สดชื่น เป็นต้น




        3 การใช้เครื่องกระจายกลิ่นพิเศษ เครื่องมือเหล่านี้มีอยู่ 2-3 แบบ ได้แก่ Streamer, Nebulizer และ Diffuser เป็นเครื่องที่ใช้ไฟฟ้า ทำให้น้ำมันหอมแตกตัว ระเหยเป็นไอให้กลิ่นออกมา เครื่องแต่ละแบบมีการออกแบบมาแตกต่างกัน




บางตัวสามารถปล่อยประจุอิออนได้ บางตัวก็ปล่อยออกซิเจนออกมาได้ ล้วนแต่เป็นเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีเข้ามาประกอบ ทำให้มีราคาสูง แต่ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการระเหยกลิ่นน้ำมันหอม เพราะไม่ทำให้อุณหภูมิสูง หรือมีการเผาไหม้ ที่อาจทำให้องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมเปลี่ยนไป

การใช้กับน้ำ

        น้ำมันหอมระเหยเป็นน้ำมันที่ไม่รวมตัวกับน้ำ แต่เราสามารถใช้น้ำเป็นสื่อในการใช้น้ำมันหอมได้ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

        1) หยดน้ำมันหอมลงในน้ำร้อน วางไว้ข้างๆ ตัวหรือในห้องที่ต้องการให้มีกลิ่น ใช้แทนเครื่องกระจายกลิ่นได้

        2) สูดไอร้อน Stream inhalation




ต้มน้ำ 1 ลิตรให้เดือด เทลงในอ่าง ทิ้งไว้ 5 นาที หยดน้ำมันหอม 3-4 หยด ใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่คลุมศีรษะและหน้า ก้มลงเหนืออ่าง หลับตา เพื่อสูดไอระเหย หรือใช้เพื่ออบไอน้ำหน้า วิธีการนี้เหมาะมากกับการแก้หวัด คัดจมูก แต่ไม่เหมาะกับการแก้อาการหอบหืด

        3) การประคบร้อนและเย็น

หยดน้ำมันหอมลงในน้ำร้อน หรือน้ำเย็น (5 หยด) ใช้ผ้าชุบน้ำ บิดให้หมาด มาประคบตามบริเวณที่ต้องการ

การประคบร้อนเหมาะกับการแก้อาการปวดท้อง ตะคริว ปวดเมื่อย ปวดประจำเดือน ส่วนการประคบเย็นเหมาะกับการฟกช้ำ ข้อเคล็ด เป็นไข้ แก้อักเสบ ไมเกรน

        4 )การแช่อาบ

รองน้ำอุ่นลงในอ่างอาบน้ำ (สำหรับแช่ตัว) หรือชามอ่าง (นั่งแช่, แช่มือแช่เท้า) ผสมน้ำมันหอมระเหยกับน้ำมันรองพื้น เกลือ หรือน้ำส้มวินิการ์ 1-2 ช้อนโต๊ะคนให้เข้ากันแล้วเทลงในน้ำ แล้วลงแช่ 10-20 นาที

การทำผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราพีอย่างง่าย

        เป็นการนำน้ำมันหอมระเหยไปผสมกับสิ่งเจือจางอื่นๆ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเจือจางของน้ำมันหอมในอัตราส่วนที่เหมาะสมที่จะใช้ได้อย่างปลอดภัย

        1) น้ำมันนวด

เป็นการนำน้ำมันหอมมาเจือจางด้วยน้ำมันรองพื้น ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และใช้ได้อย่างกว้างขวาง ความเข้มข้นมีตั้งแต่ 0.5-10 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ เช่น ใช้กับหน้าไม่ควรเกิน 1 เปอร์เซ็นต์ ใช้กับตัวสำหรับบำรุงผิวแทนโลชั่นไม่ควรเกิน 2 เปอร์เซ็นต์ แต่หากต้องการแก้อาการปวด อาจต้องสูงถึง 8 เปอร์เซ็นต์


น้ำมันนวด Slimming Massage oil ใช้ทาเพื่อช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน และเซลลูไลต์ สนใจสอบถามสั่งซื้อได้ที่ gaemnual@hotmail.co.th


        น้ำมันรองพื้นที่นิยมใช้โดยทั่วไปได้แก่ สวีทอัลมอนด์ เมล็ดองุ่น แมคคาเดเนีย ทานตะวัน มะพร้าว งา และมะกอก

อัตราส่วนที่ใช้สำหรับนวดตัวโดยทั่วไปนิยมที่ 5 เปอร์เซ็นต์ หรือใช้น้ำมันรองพื้นที่ 30 มิลลิลิตร กับน้ำมันหอม 30 หยด หรือต่ำกว่านี้ก็ได้

2) สเปรย์น้ำ (Mist spray)

ใช้น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร หยดน้ำมันหอม 10 หยด เขย่าให้เข้ากัน ทิ้งไว้อย่างน้อย 7 วัน ให้เขย่าทุกวัน แล้วกรองด้วยกระดาษกรองกาแฟ ใช้เป็นมิสต์สเปรย์หรือเป็นโทนเนอร์ก็ได้

การทำน้ำหอมส่วนตัว

เราสามารถทำน้ำหอมส่วนตั๊วส่วนตัวของเราได้อย่างง่ายๆ ด้วยการใช้น้ำมันหอมระเหย ที่เป็นสูตรเฉพาะของเราเอง ทั้งยังให้ประโยชน์กับสุขภาพอีกด้วย

1) เพอร์ฟูมออยล์

เป็นน้ำหอมที่มีตัวทำละลายเป็นน้ำมัน โดยเราใช้โจโจบาออยล์เป็นน้ำมันรองพื้น ผสมน้ำมันหอมได้ไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับสูตรและความชอบ ให้ผสมน้ำมันหอมตามสูตรที่ต้องการไว้ก่อนล่วงหน้า 1-2 วัน แล้วจึงนำมาผสมกับโจโจบาออยล์ เก็บไว้ในขวดแก้วสีชา ใช้เป็นน้ำหอมคู่กายได้ทุกวัน

สัดส่วนการผสมเพอร์ฟูมออยล์

ใช้โจโจบาออยล์ 15 มิลลิลิตร (1 ช้อนโต๊ะ)
ผสมกับน้ำมันหอม         5 หยด          ความเข้มข้นที่ได้ 5 %
                                10 หยด                              10 %
                                15 หยด                              15%
                                20 หยด                              20 %

2) การทำโอเดอโคโลญน์

        โอเดอโคโลญน์คือน้ำหอมที่ผสมกับอัลกอฮอล์ โดยมีน้ำมันหอมอยู่ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ในที่นี้ ผู้เขียนจะแนะนำสูตรผสมกับวอดก้า

สูตรผสมวอดก้า            วอดก้า       4.5 ช้อนชา
                                น้ำมันหอม   30 หยด
                                น้ำสะอาด    2 ช้อนชา


วิธีการผสม
1 ผสมน้ำมันหอมตามสูตรที่ต้องการไว้ล่วงหน้า 1-2 วัน
2 ผสมน้ำมันหอมเข้ากับวอดก้าหรืออัลกอฮอล์ตามสัดส่วน แล้วทิ้งไว้อีก 1 คืนเป็นอย่างน้อย
3 ค่อยๆ เติมน้ำ ไม่จำเป็นต้องเติมหมด หากเติมน้ำแล้วส่วนผสมเริ่มขุ่น ให้หยุดเติม เขย่าทิ้งไว้อีก 1 คืน ก็สามารถนำมาใช้ได้

        เห็นไหมว่า เรามีวิธีนำน้ำมันหอมมาใช้ได้อย่างหลากหลาย ชอบใช้แบบง่ายๆ หรือว่าแบบพิถีพิถันก็ทำได้หมด

        และไม่ว่าด้วยวิธีไหน เราก็ได้รับประโยชน์จากอโรมาเธอราพี


4 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากค่ะ กระจ่างขึ้นเยอะเลย ^0^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จะได้เลือกวิธีใช้ได้หลากหลายไงคะ ^__^

      ลบ
  2. อโรมามันไม่ใช่เคมีและระเหยได้ เอามาทำน้ำหอมจะอยู่ได้ทั้งวันมั้ยคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ต้องยอมรับตรงๆ ว่า อยู่ได้ไม่นานขนาดนั้นค่ะ แต่ก็มีวิธีที่จะให้กลิ่นอยู่นานๆ นะคะ อยู่ที่การเลือกตัวน้ำมันหอมค่ะ

      ลบ