คนโบราณนำศาสตร์แห่งกลิ่นหอมนี้มาใช้ประโยชน์ในทุกด้านของชีวิต
;
ปรุงอาหาร ประทินผิว รักษาความอ่อนเยาว์ บำบัดโรค บำรุงสุขภาพ
คลายความเครียด สร้างความรื่นรมย์ให้จิตใจ และ...การขัดเกลาจิต สร้างสมาธิ
หรือเพิ่มพูนปรีชาญาณ รวมทั้งการบูชาเทพ
ผู้เขียนขอจัดหมวดหมู่ง่ายๆ
เป็น 4 หมวดใหญ่
หมวดแรก
ความงามและดูแลผิวพรรณ
เป็นเรื่องพื้นฐาน มองเห็นง่าย และยังใช้กันอยู่ทั่วไป ผู้เขียนเองก็ใช้ดูแลผิวพรรณและแนะนำคนรู้จักให้ลองใช้ จนติดใจกันบอกกันปากต่อปาก จนต้องทำเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่าย
คือเซรั่มบำรุงรอบดวงตา และเซรั่มแก้ฝ้า (ดูเพิ่มเติมที่นี่)
ภาพจากอินเดอร์เน็ต
หมวดสอง
รักษาสุขภาพทางกาย
ด้วยคุณสมบัติทางยา เช่น การคลายกล้ามเนื้อ ลดความเจ็บปวด
การฆ่าเชื้อ ช่วยระบาย ฯลฯ น้ำมันหอมระเหยจึงช่วยเราลดอาการไม่สบายต่างๆ
ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งภายนอกและภายใน โดยมีผลข้างเคียงน้อย หรือไม่มีเลย
หากเราใช้อย่างถูกต้อง
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
การรมไอน้ำเป็นเทคนิคที่ใช้ระเหยน้ำมันหอมแก้อาการหวัด
หมวดสาม
บำบัดจิตใจและอารมณ์
โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากความเครียด น้ำมันหอมสามารถเข้าไปปรับการทำงานของต่อมไร้ท่อ
การหลั่งฮอร์โมนและเอนไซน์ให้เกิดความสมดุล
ส่งผลให้สภาพจิตใจและอารมณ์เรามีสภาวะที่ดีขึ้น บางกลิ่น ช่วยผ่อนคลาย
ทำให้จิตใจสงบ บางกลิ่นช่วยคลายความเหนื่อยล้า เพิ่มพูนกำลังใจ
บางกลิ่นลดอาการซึมเศร้า ทำให้จิตใจสดใส เป็นต้น
หมวดสี่ การใช้ในพิธีกรรมและมายาศาสตร์
หมวดนี้ หลายคนคงจะงงๆ ลองนึกถึงเวลาคุณจุดธูปไหว้พระ
ผสมน้ำอบในน้ำเพื่อสรงน้ำพระ... นั่นละค่ะ การใช้ในทางพิธีกรรมและมายาศาสตร์
คือการใช้กลิ่นหอมในพิธีกรรมนั่นเอง
การใช้ในหมวดที่สี่นี้
เราใช้กันมาแต่โบร่ำโบราณ แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่ลืมกันไปหมดแล้ว สมัยก่อนธูปไหว้พระ
ทำจากผงไม้และสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม เช่น ไม้จันทน์ ขลูด อบเชย ฯ
เวลาจุดทำให้สมุนไพรเหล่านี้คายความหอมออกมา กลายเป็นสุคนธบูชา เวลาเดียวกัน
ผู้บูชาก็ได้รับกลิ่นเหล่านี้ ทำให้จิตใจสงบ และเข้าถึงสมาธิมากขึ้น
ไม่เพียงแต่ใช้จุดให้มีกลิ่นหอม
การนำมาใช้ในหมวดนี้ ได้รับการพัฒนาไปในศาสตร์ต่างๆ ทั่วโลก เช่น
การปรุงกลิ่นที่เรียกกันว่า คัฟฟี เพื่อบูชาพระเทวีไอซิส
การระเหยกลิ่นซีดาร์วูดเพื่อบูชาจอมเทพโอดิน
การทำน้ำมันเจิมเรียกทรัพย์ในวิชาวิชท์คราฟต์ของเหล่าแม่มด การผสมสูตร Purification เพื่อชำระสถานที่ ฯลฯ
ปัจจุบันการนำน้ำมันหอมระเหยหรือศาสตร์อโรมาเธอราพีมาใช้ประโยชน์ในทางจิตวิญญาณได้พัฒนาไปมาก
ในต่างประเทศ นิยมศาสตร์ที่เรียกว่า Subtle Aromatherapy ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์เหล่านี้
ได้ประสานคุณสมบัติของน้ำมันหอมเข้ากับศาสตร์อื่นๆ เช่น
การใช้น้ำมันหอมตามจักรราศี การใช้ร่วมกับวิชาสมาธิแบบต่างๆ อาทิ โยคะ ชี่กง เรกิ
คริสตัลบำบัด เป็นต้น
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ผู้เขียนเอง ได้รับความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด
คืออ.กิตติ วัฒนะมหาตม์ นักเทววิทยา ที่ผ่านการศึกษาเทวศาสตร์อินเดีย อาซาทรู
และอียิปต์ และอยู่ในระดับที่เรียกว่า คุรุ และมาสเตอร์
ได้พัฒนาการใช้กลิ่นหอมเพื่อการบูชาเทพและมายาศาสตร์เพิ่มเติม
จนได้วิธีการและสูตรขึ้นมาหลายสูตร เผยแพร่ออกสู่วงกว้าง จนมีผู้ใช้ตาม
บางคนก็ถึงกับลอกเลียนอ้างว่าเป็นวิชาของตนก็มี
สุคนบูชาวิธีหนึ่งที่ผู้เขียนกับอ.กิตติ
ได้พัฒนาขึ้น คือการใช้น้ำกุหลาบ (สกัดจากดอกกุหลาบแท้) ฉีดพรมแท่นบูชา
ทั้งแท่นพระพุทธรูป เทพฝ่ายพุทธ เทพฝ่ายอินเดีย ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
ปรากฎว่าได้ผลดี แท่นบูชาสว่างไสว พระพุทธรูปและเทวรูปต่างๆ มีพลังเพิ่มพูนดี
วิธีการนี้ เราเผยแพร่มาตั้งแต่ช่วงปีพ.ศ. 2548 และตีพิมพ์ในหนังสือคู่มือบูชาเทพ
(ฉบับที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์อย่างมโหฬาร)
น้ำกุหลาบออแกนนิค Organic Rose Hydrosol ของ Mystica spiritual aromatherapy ขวดสเปรย์ 100 มล. สนใจสั่งซ์้อได้ที่ Line ID: Mystica4u /email : gaemnual2018@gmail.com
จนทำให้ร้านค้าในย่านซอยวัดซิกข์
ถึงกับนำเข้าน้ำกุหลาบสังเคราะห์ที่มีราคาถูกเข้ามาจำหน่าย
แต่ของสังเคราะห์
(หรือเรียกตรงๆ ว่าของปลอม) ก็ไม่ได้มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำกุหลาบออแกนนิคที่ผู้เขียนใช้อยู่
ความนิยมจึงซาๆ ลง จำกัดอยู่แต่ในหมู่ผู้ที่เข้าใจและเห็นคุณค่าของของแท้เท่านั้น
เพราะน้ำกุหลาบแท้มีราคาสูง
การใช้น้ำมันหอมในทางพิธีกรรมและจิตวิญญาณ
หรือ Subtle
Aromatherapy จึงเป็นศาสตร์ระดับสูงที่ลึกซึ้ง
ต้องการเวลาในการทำความเข้าใจ
เหมาะสำหรับผู้ที่ปรารถนาจะยกระดับปรีชาญาณของตนให้ก้าวหน้าเท่านั้น
สำหรับผู้สนใจโดยทั่วไป
ประโยชน์ของอโรมาเธอราพีในสามหมวดแรกก็ให้กำไรอย่างมหาศาลแก่คุณแล้ว
ยิ่งหากได้ใช้ประโยชน์จากหมวดที่ 4 คุณอาจได้พบจุดเปลี่ยนแห่งโชคชะตา และสามารถโน้มนำจิตวิญญาณของคุณ ไปสู่หนทางแห่งแสงสว่างอย่างที่คุณคาดไม่ถึงทีเดียว
ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์ให้คุณเลือกใช้ในทั้ง 4 หมวด และคุณสามารถดูรายการได้จาก ที่นี่